เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย |
เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา |
เวลาที่ส่องกระจก มีใครเคยแอบนึกเล่นๆ เหมือนกันบ้างว่า “ถ้ารอยฝ้าหรือรอยกระตรงนี้หายไป ผิวเราคงจะสวยกว่านี้แน่ๆ?”
หลายคนทั้งๆ ที่ตอนวัยรุ่น ถึงจะโดนแดดยังไงผิวก็ยังสวยใส แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ พออายุย่างเข้า 20 กว่าๆ รอยฝ้ากระทีสะสมมาก็จะมาพร้อมกันมากมายมาแบบไม่ทันตั้งตัว
ใครที่คิดว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องดูแลอะไรมากเป็นพิเศษ ซัก 5 ปีผ่านไป จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิว ที่เห็นแล้วอยากจะร้องไห้ค่ะ ดังนั้นใครที่ยังทัน เริ่มวันนี้ยังไม่สายไป มารู้จักรอยกระฝ้าของตัวเองแล้วหาวิธีการดูแลที่ถูกต้องกันค่ะ
ดูแลก่อนสายเกินแก้
รอยกระฝ้าจากแสงแดดรอยกระหรือฝ้าที่สาวๆ ในแถบเอเชียมักจะเป็นกันก็คือ รอยกระฝ้าจากแสงแดด ที่เกิดจากการเปลี่ยนสีจนฝังลึกของเม็ดสีในชั้นผิว ทำให้ผิวในส่วนนั้นเกิดสีที่เข้มขึ้นกว่าส่วนอื่นๆ เนื่องจากเมื่อผิวหนังถูกแสงแดดหรือรังสียูวี melanocyte หรือเซลล์เม็ดสีเมลานินก็จะเกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินในบริเวณนั้นๆ ขึ้น เพื่อปกป้องเซลล์ผิวเอาไว้
โดยปกติเมลานินจะถูกส่งไปที่ผิวชั้นนอกของเซลล์และถูกผลัดออกไปพร้อมๆ กับการผลัดเซลล์ผิว แต่ถ้าผิวถูกแสงแดดมากๆ เป็นเวลานานๆ ทำให้เมลานินเพิ่มมากขึ้นหรือแม้แต่ความเครียดที่ทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายผิดปกติไป ก็จะทำให้เม็ดสีเมลานินนั้นไม่ถูกผลัดออกไปและสะสมกันอยู่จนทำให้เกิดเป็นรอยฝ้าสีเข้มจนมองเห็นเป็นรอยได้ชัดเจน
สาเหตุของฝ้าและกระไม่ได้มาจากแสงแดดเท่านั้น
นอกจากการระวังแสงแดดแล้ว รอยกระฝ้ายังมีความเกี่ยวข้องกับความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ลดลง แสงแดดจะทำให้ภายในผิวหนังเกิดการ Oxidation และกลายเป็นรอยฝ้าหรือกระ ดังนั้นเมื่ออายุมากขึ้นและความสามารถในการต่อต้านอนุลมูลอิสระของร่างกายลดลงทั้งรอยฝ้ากระและความเหี่ยวย่นก็จะเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนว่ากระฝ้าจะมีหลายแบบ ลองไปจัดประเภทกันค่ะ คนไทยมีรอยกระฝ้าแบบไหนมากที่สุดคะ?
ประเภทของรอยกระฝ้า
ที่ญี่ปุ่นจะแบ่งประเภทของรอยฝ้ากระเป็น 3 ประเภท โดยดูจากทั้งสีสัน รูปร่าง จุดที่ขึ้น แล้วก็วิธีการที่กระจายไปบนผิวของเรา ซึ่งบางทีในคนคนเดียวกันอาจจะมีฝ้ากระหลายๆ ประเภทรวมกันอยู่ก็ได้ค่ะ
มาดูแลรอยกระฝ้าด้วยตัวเองกัน
Point 1. ห้ามลืมปกป้องผิวจากรังสี UV
รังสียูวีมีพลังมากกว่าที่หลายคนคิดสามารถทะลุผ่านหน้าต่างหรือ กลุ่มเมฆแม้ในวันที่มืดครื้มไม่มีแดด ดังนั้นคอยป้องกันผิวไม่ให้ต้องรับภาระจากรังสียูวีมากเกินไปด้วยการทาครีมกันแดด ถ้าต้องออกข้างนอก อย่าลืมร่มหรือหมวก หรือปกป้องผิวบริเวณที่อ่อนบางอย่างดวงตาด้วยแว่นตากันแดด
Point 2. เร่งการผลัดผิว
เพื่อเร่งให้เซลล์ผิวเก่าๆที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มถูกกำจัดออกไป ควรจะล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าที่มีฟองมากๆ เพื่อกำจัดเซลล์และสิ่งสกปรกออกต่างๆ ที่สะสมออกไปอย่างนุ่มนวล นอกจากนั้นการนวดหน้าอย่างเบามือ เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนก็เป็นอีกทางที่ช่วยได้
Point 3. ป้องกันไม่ให้ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายลดลง
สิ่งสำคัญก็คือการกินอาหารให้สมดุล และ ใช้ชีวิตประจำวันอย่างถูกสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงความเครียด บุหรี่ หรือแอลกอฮอล์ที่จะเร่งให้การเกิด Oxidation เร็วขึ้น
Point 4. บำรุงผิวด้วยเครื่องสำอางหรืออาหารเสริมที่ช่วยเรื่อง Whitening
การดูแล บำรุงผิวตั้งแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญมาก อย่าคิดว่ายังอายุน้อย ไม่ต้องเริ่มดูแลก็ได้ ลองเปรียบเทียบคนที่ดูแลบำรุงแต่เนิ่นๆ อย่างต่อเนื่อง กับคนที่ไม่ได้บำรุงจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
แต่เครื่องสำอางหรืออาหารเสริมเหล่านี้มีหลายแบบ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ ลองหาข้อมูลเยอะๆ ดูหลายๆ แบบค่อยเลือกว่าอย่างไหนที่เหมาะกับตัวเอง ข้อสำคัญนั้นอย่าลืมเช็คด้วยว่า รอยฝ้ากระของตัวเองนั้นเป็นแบบไหน ซื้อมาแล้วเมื่อเริ่มใช้ ก็ต้องคอยสังเกตดูว่าเป็นยังไง ถ้ารู้สึกว่าไม่เหมาะกับเราก็ควรหยุดใช้ หลายคนเสียดายทนใช้ต่อกลายเป็นว่าต้องมาตามแก้ไขวุ่นวายกว่าเดิม.....
ขอขอบคุณข้อมูล : OLRepublic