ไม่รู้ว่า การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด smartphone ในปัจจุบัน จะยังเหลือพื้นที่ยืนให้กับ smartphone ยี่ห้อ Blackberry ของบริษัท RIM หรือเปล่า

หลายคนบอกว่า “ยังสู้ได้” แต่… ต้องรู้จักจุดแข็งของตัวเองให้ได้
อะไรเป็นจุดแข็งที่ Blackberry น่าจะมีเพียงพอ ที่จะเอาตัวรอดได้ในสนามการต่อสู้แข่งขันในตลาด smartphone ที่ดุเดือดนี้ได้
ลองมาสำรวจดู 7 จุดแข็ง ของ Blackberry กัน

1. สิ่งแรกที่เห็นได้ คือ ความโดดเด่นในเรื่องอีเมล์

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Blackberry ถูกออกแบบมา สำหรับการทำงานในเรื่องอีเมล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ (push mail service)
ไม่แปลกใจที่ หลายใช้ Blackberry ก็เพราะต้องการติดต่อรับส่งอีเมล์ ให้ได้อย่างรวดเร็ว และอีเมล์เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำงานในชีวิตประจำวัน ทำให้คุณไม่พลาดอีเมล์ที่สำคัญในเวลาที่รวดเร็ว

2. อีกอย่าง ก็เรื่องของ keyboard

จริงอยู่มีบางรุ่นของ Blackberry ที่เป็น touchscreen แต่ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จะพบว่า เครื่อง Blackberry ส่วนใหญ่ ยังคงเอกลักษณ์ของการใช้ keyboard
Blackberry ที่มี keyboard ก็มี รุ่น Pearl, Bold, Curve และ Tour ส่วนรุ่นที่เป็น touchscreen จะเป็นรุ่น Storm  และรุ่นที่มีทั้ง touchscreen และ keyboard ก็รุ่น Torch ดังนั้น Blackberry เกือบทุกรุ่น มี keyboard หมด ยกเว้นรุ่น Storm

ทำไม keyboard ถึงดูเหมือนสำคัญ ? ก็อย่างที่บอกว่า Blackberry ถูกออกแบบมาสำหรับการรับส่งอีเมล์ การพูดคุยกันในวงสนทนา ฉะนั้น การมี keyboard จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ลองใช้เครื่อง iPhone หรือ Android ที่เป็น touchscreen แล้วต้องพิมพ์ตอบอีเมล์ หรือ คุย chat ดูซิ ความรู้สึกต่างกับการใช้ keyboard อย่างมากมาย

3. โปรแกรม (app) หลักๆ แม้มีน้อย แต่ก็เพียงพอ

หากลองเปรียบเทียบ โปรแกรม หรือ apps ที่ใช้งานได้บน smartphone นั้น เครื่อง iPhone ของ Apple จะมีโปรแกรมให้ใช้มากที่สุด (มากกว่า 250,000 apps), รองลงมาก็เป็น เครื่อง Android (มีมากกว่า 100,000 apps), ในขณะที่ เครื่อง Blackberry มีประมาณแค่ 9,000 กว่า apps เท่านั้น
แต่แม้จะมีโปรแกรม หรือ apps น้อยกว่าคู่แข่ง แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน และสามารถสร้างให้เกิดผลผลิต (productivity) ในงานแต่ละวันได้แล้ว
ในขณะที่ iPhone จะทำให้เรารู้สึกสนุก (fun and entertain) แต่ Blackbery ทำให้เราได้งาน (productivity)

4. การคุย chat ระหว่างเครื่อง

เครื่อง Blackberry มีจุดเด่นมาก ในเรื่องการคุย chat ระหว่างเครื่อง Blackberry ด้วยกัน ซึ่งสิ่งนี้เป็นประโยชน์มากๆ สำหรับ การสื่อสารกันในครอบครัว, ในแวดวงที่ทำงาน, ในแวดวงเพื่อน หรือ คนที่รู้จัก
สิ่งนี้ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นขึ้น หรือการคุยปรึกษาหารือกับหัวหน้างาน หรือการขอการตัดสินใจต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดผลผลิตงาน (productivity) ที่รวดเร็วมากจริงๆ

5. ระบบความปลอดภัยของ Server ชั้นยอด

คุณรู้ไหมว่า Blackberry เป็น smartphone ที่ได้ออกแบบระบบความปลอดภัยของ Server ในการใช้งานเครื่อง Blackberry ได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ว่า Blackberry จะถูกกดดันจากหลายประเทศ ในการที่จะต้องดัดแปลงระบบความปลอดภัย Server ของเครื่อง Blackberry ก็ตาม
แต่ Blackberry ก็ยังไม่เคยท้อแท้ พับเสื่อกลับบ้าน ก็ยังเดินหน้าที่จะเจรจา และหาทางออกที่ดีที่สุด ที่จะยังคงรักษาความเป็น smartphone ที่มีระบบความปลอดภัยชั้นยอดต่อไป

ประเทศเหล่านั้น ต้องการจะให้ Blackberry เปิดระบบความปลอดภัยของ Server ให้ประเทศเหล่านั้น สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ โดยอ้างว่า ต้องการป้องกัน นักก่อวินาศกรรม แต่บางทีประเทศเหล่านั้น ต้องการที่จะสอดส่องและควบคุมการใช้งานพลเมืองของตนเอง
หากคุณใช้ smartphone ยี่ห้ออื่นๆ คุณจะไม่มีระบบความปลอดภัยของ Server มาด้วยอย่างแน่นอน ก็แค่การใช้งานโทรศัพท์ และบันเทิงทั่วไป

6. มีเครื่องให้เลือกหลากหลาย

หากเราต้องการจะใช้ smartphone Blackberry เราก็สามารถเลือกตัวเครื่องได้หลากหลาย ไม่ว่าเราจะชอบ keyboard แบบไหน ตัวเครื่องหนา บางแค่ไหน ชอบ touchscreen ไหม ชอบขนาดอย่างไร และอื่นๆ

ต่างกับคู่แข่งอย่าง iPhone ที่มีขายรุ่นเดียว คือ รุ่นล่าสุดเท่านั้น (ปัจจุบัน คือ iPhone 4) ส่วนเครื่องรุ่นอื่น (อย่าง iPhone 3GS หรือ iPhone 3G) คงไม่มีใครอยากจะซื้อ เพราะมันเก่าไปซะแล้ว
แม้ว่าแทบจะไม่เคยเห็นใครไปยืนต่อแถวยาว เพื่อจะซื้อ Blackberry ตัวล่าสุด อย่างเช่น Torch 9800 เพื่อจะซื้อให้ได้เป็นคนแรกก็ตาม .. แต่ Blackberry ก็ยังเกาะกุมตลาดลูกค้าได้ไม่เสื่อมคลาย

7. คุณต้องการ งาน (productivity) หรือ บันเทิง (entertain)

อย่างที่บอกแล้วว่า เครื่อง Blackberry ถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานด้านข้อความ (message-centric) เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นงานด้านรับส่งอีเมล์ หรือการคุย chat กับคนรอบตัว ซึ่งเพียงพอสำหรับช่วยการทำงานประจำวัน ที่จะทำให้เราทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ

เครื่อง smartphone อย่าง Blackberry นั้นช่วยให้เราได้ผลผลิตงาน (productivity) มากกว่า ให้ด้านความบันเทิง แก่เราแน่ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ (แม้ว่า Blackberry ก็ทำได้ แต่อาจจะไม่ได้เป็นจุดเน้น)

โดยสรุป

คงไม่ง่ายนัก หากคุณทำสินค้าสำหรับผู้บริโภค (consumer) และต้องการไต่ระดับขึ้นไปเป็นสินค้าสำหรับองค์กร (enterprise) เพราะคุณต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยอีกมาก
แต่สำหรับ Blackberry แล้ว จุดแข็งในความเป็นสินค้าสำหรับองค์กร โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย นั้น อาจจะช่วยให้ก้าวลงมาแตะตลาดระดับผู้บริโภคได้ไม่ยากนัก

แม้ว่า เครื่อง Blackberry ล่าสุด Torch 9800 มาพร้อม OS ล่าสุด Blackberry 6 ขายได้ 150,000 เครื่องในสัปดาห์แรก .. เกือบจะเทียบไม่ได้เลยกับ iPhone 4 ที่ขายได้ 1 ล้าน 6 แสน เครื่อง ใน 2-3 วันแรกที่เปิดจำหน่าย ..
แต่ Blackberry ก็ยังเป็นประเภท “ช้าแต่ชัวร์” หรือ “ช้าแต่เสถียรภาพ” ค่อยๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง และเก็บฐานลูกค้าไปเรื่อยๆ ได้ดี

ก็คงต้องเอาใจช่วย Blackberry และคอยติดตามดูว่า จะยืนอยู่ในตลาด smartphone ได้อย่างไร ..

อ้าว ขอเสียง สาวก Blackberry หน่อย ..

เพิ่มเติมจาก เดอะสตาร์
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  http://www.7boot.com