ราคามือถือมาบุญครอง mbk มือถือราคาถูก เปรียบเทียบราคามือถือ mbk
 เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย |
| เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา |
แพคเกจร้านค้าออนไลน์
ไขปัญหาคาใจ จะเลือกรุ่นไหนดี ระหว่าง Sony Xperia S กับ Samsung Galaxy S II ?
เป็นคำถามที่ตอบได้ยากอยู่เหมือนกัน หากมีใครซักคนเดินมาถามว่ากำลังสนใจ สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ ที่มีซีพียูแบบ Dual-Core ระหว่างรุ่นยอดนิยม ณ ปัจจุบันอย่าง Samsung Galaxy S II ซึ่งเชื่อใจในคุณภาพได้อยู่แล้ว เห็นได้ชัดจากกระแสตอบรับในช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ Samsung Galaxy S II เปิดตัวและวางจำหน่ายจนถึงปัจจุบัน กระแสก็ยังคงแรงดีไม่มีตก รวมถึงราคาจำหน่ายก็ไม่ตกด้วยเช่นกัน เรียกว่าเป็น สมาร์ทโฟน ที่ยอดเยี่ยมที่สุดรุ่นหนึ่งในปีทีผ่านมาเลยก็ว่าได้ แต่ทว่าอีกใจหนึ่งก็ได้ข่าวว่ารุ่นที่กระแสกำลังแรงสุดๆ อย่าง Sony Xperia S นั้นใกล้จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเต็มที ราวๆ ปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน 2555 นี้ ก็น่าจะได้จับจองกันแล้ว แถมราคาเปิดตัวก็ยังย่อมเยากว่า Samsung Galaxy S II อีกต่างหาก จึงทำให้หลายคนเกิดความลังเลไม่น้อย เพราะฉะนั้นเราจะนำทั้ง Sony Xperia S และ Samsung Galaxy S II มาสรุปเปรียบเทียบให้เห็นกันแบบสั้นๆ ชัดๆ กันไปเลยว่ารุ่นไหนมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบที่แตกต่างกันอย่างไร เผื่อว่าทุกท่านจะนำไปเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ
จริงๆ แล้วก็ยังมีคุณสมบัติยิบย่อยอื่นๆ อีกหลายอย่างของทั้ง Sony Xperia S และ Samsung Galaxy S II ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ แต่ในเบื้องต้นขอเน้นไปที่คุณสมบัติสำคัญๆ ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อเห็นจากข้อมูลเปรียบเทียบข้างต้นก็เรียกได้ว่าทั้ง Sony Xperia S และ Samsung Galaxy S II ต่างก็ข้อได้เปรียบของตัวเอง ซึ่งแล้วแต่ว่าผู้ซื้อจะให้ความสำคัญกับคุณสมบัติด้านในมากกว่ากัน
ในด้านของ Sony Xperia S จะมีข้อได้เปรียบหลักๆ คือ
- ราคาเปิดตัวที่ย่อมเยากว่าราวๆ 1,000 บาท ซึ่งก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกซื้ออยู่ไม่น้อย ประกอบกับได้ความสดใหม่กว่า เนื่องจากทาง Samsung Galaxy S II นั้นเปิดตัวมาได้ราวๆ 8-9 เดือนแล้วนั่นเอง
- การออกแบบดีไซน์ที่ดูดีมีเอกลักษณ์มากกว่า (ในความคิดเห็นส่วนตัว) ซึ่งก็แน่ใจว่าส่วนใหญ่ก็น่าจะเห็นไปในทางเดียวกัน และยิ่งได้สัมผัสกับตัวจริงของ Sony Xperia S ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะแถบโปร่งแสงด้านล่างนั้นถือว่าโดดเด่นไม่น้อย
- วัสดุและชิ้นงานที่มีคุณภาพสูง และให้ความรู้สึกแข็งแรงแน่นหนามากกว่าอย่างชัดเจน
- แบตเตอรี่ความจุ 1,750 mAh ซึ่งมากกว่าของ Samsung Galaxy S II อยู่ประมาณ 100 mAh ซึ่งก็น่าจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า
- ความละเอียดของหน้าจอ 1,280x720 พิกเซล ซึ่งทำให้แสดงผลได้ละเอียดคมชัดมากกว่า
- ใช้ซีพียู Dual-Core (Qualcomm MSM8260 Snapdragon) ความเร็ว 1.5 GHz ซึ่งประมวลผลได้เร็วกว่า
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB ในขณะที่ Samsung Galaxy S II ที่ขายในไทยนั้นมีมาให้เพียง 16 GB
- กล้องดิจิตอลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า
- เชื่อมต่อกับช่อง HDMI ของจอ LCD, LED หรือ Plasma ได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ตัวแปลงใดๆ
- รองรับการเชื่อมต่อระยะใกล้ๆ แบบ NFC ได้ในตัว ในขณะที่ Samsung Galaxy S II ที่ขายในไทยจะไม่สามารถใช้งาน NFC ได้
ข้อได้เปรียบของ Samsung Galaxy S II
ส่วนในด้านของ Samsung Galaxy S II จะมีข้อได้เปรียบหลักๆ คือ
- มีขนาดตัวเครื่องที่บาง และเบากว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากใครต้องการเครื่องเบาๆ Samsung Galaxy S II ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ใช้งานซิมการ์ดที่มีขนาดปกติ ไม่ต้องใช้เป็นไมโครซิมเหมือนกับ Sony Xperia S ดังนั้นด้วยซิมการ์ดแบบเดิมๆ ก็สามารถนำมาใช้งานได้ทันที
- มีเทคโนโลยีของจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Plus ซึ่งสามารถแสดงสีสันสดใสมากกว่า และมีค่าความเปรียบต่าง (Contrast) ที่ดีกว่า รวมถึงรองรับการแสดงผลได้มุมมองต่างๆ ได้มากกว่า
- สามารถใส่หน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 32 GB ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดของการใช้งานหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง
- กล้องดิจิตอลด้านหน้ามีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีความละเอียดมากกว่ากล้องดิจิตอลด้านหน้าของ Sony Xperia S ที่มีความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
- มีความเร็วในการเชื่อมต่อผ่านทางเครือข่าย HSPA สูงสุดอยู่ที่ 21 Mbps
- รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า
สรุปว่า
สุดท้ายแล้วผู้ซื้อก็ยังคงต้องตัดสินใจด้วยตนเอง เนื่องจากแต่ละรุ่นก็สามารถตอบสนองกับการใช้งานแต่ละแบบได้ดีมากน้อยแตกต่างกันไป เช่นหากได้ซีพียูเร็วกว่า หรือกล้องชัดกว่า ก็คงต้องเลือก Sony Xperia S แต่หากต้องการๆ แสดงผลที่สวยสดใสกว่า หรือตัวเครื่องที่บางเบากว่า ก็คงต้องเลือก Samsung Galaxy S II เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม หากท่านใดดูแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนอยู่ดี หรือไม่ได้มีโจทย์ใดๆ ตั้งอยู่ในใจ ก็แนะนำให้รอ Sony Xperia S วางจำหน่ายเสียก่อน แล้วค่อยลองไปสัมผัสกับตัวจริงของทั้ง 2 รุ่น หากรู้สึกชอบหรือถูกชะตากับรุ่นไหนก็ให้จับจองมาได้เลย เพราะว่าโดยรวมแล้วก็น่าใช้พอๆ กันทั้ง 2 รุ่นเลยนั่นเองครับ
ที่มา http://hitech.sanook.com
" width="38" height="40" border="0" />
" width="38" height="40" border="0" />