เช่า wifi ญี่ปุ่น รับเครื่องได้ที่ไทย ใช้งานได้ที่ญี่ปุ่น ส่งเครื่องกลับคืนในไทย |
เลือกหมวดสินค้าที่ต้องการค้นหา |
สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีวันหยุดยาวหรือเวลาที่จะต้องเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไกล ๆ แบบคนอื่นเขา วันนี้กระปุกท่องเที่ยวกลับมาเอาใจคนกรุงที่ชื่นชอบการเที่ยวชมนิทรรศการต่าง ๆ ด้วยนิทรรศการดี ๆ ที่หาดูได้ยากสำหรับคนไทยอย่าง นิทรรศการ "บทเรียนในความมืด" ความรู้สึกที่ไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตา กับคำถามมากมายที่เกี่ยวข้องกับความมืด ที่นี่รอให้เราไปสัมผัสบทเรียนต่าง ๆ ท่ามกลางความมืด เพื่อค้นหาคำตอบกัน
Dialogue in the Dark คือ นิทรรศการที่คนเข้าชมมองไม่เห็นอะไรเลย เปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่เดือนตุลาคมในปี 2553 แต่น่าเสียดายที่หลายคนยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปเรียนรู้นิทรรศการชุดนี้ เพราะไม่รู้ว่ามีแบบนี้ในเมืองไทย โดยนิทรรศการในความมืดนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้เรารู้ได้ว่า ความมืดสนิทที่ไม่มีแสงสว่างเราควรเลือกเดินทางอย่างไร ที่นี่จะไขความกระจ่างและให้บทเรียนกับคำตอบเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ถึงเรื่องราวที่จะทำให้เราได้เรียนรู้อย่างมีสติ และปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อผู้พิการทางสายตา หรือที่เราเรียกว่า "คนตาบอด"
โดยแนวความคิดขอนิทรรศการบทเรียนในความมืดนี้มาจาก แอนเดรียส ไฮเนกี้ นักธุรกิจชาวเยอรมัน ซึ่งทำงานในสถานีวิทยุและต้องทำงานกับคนตาบอด ที่ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับการที่จะอยู่ร่วมกับคนตาบอด แต่ในระหว่างนั้น กลับได้เรียนรู้ว่าคนตาบอดสามารถทำอะไรได้เหมือนคนทั่วไป แต่สังคมกลับแบ่งชนชั้น ทำให้คนตาบอดกลายเป็นบุคคลที่น่าสงสาร หลายคนก็ไม่อยากที่จะสื่อสารกับคนตาบอดด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี่เองที่จุดประกายให้เธอเข้าสู่ธุรกิจผู้ประกอบการสังคม ด้วยการพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์เพื่อช่วยคนตาบอด ซึ่งนำมาสู่การจัดนิทรรศการบทเรียนในความมืด เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจคนตาบอดมากขึ้น
สำหรับในเมืองไทยนั้น ดร.ปริยกร ปุสวิโร อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เคยเป็นนักศึกษาไทยที่เดินทางไปเรียนที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี และได้มีโอกาสเรียนรู้นิทรรศการบทเรียนในความมืดตั้งแต่ปี 2001 จึงเกิดความสนใจ จนกระทั่งปี 2008 เธอประสานงานกับทางองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (อพวช.) เพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์มาจัดทำนิทรรศการในเมืองไทยที่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยก่อนหน้านี้ได้พาผู้บริหารเดินทางไปดูนิทรรศการต้นแบบที่ฮัมบูร์ก เพื่อให้เข้าใจวัตถุประสงค์และบรรยากาศ จากนั้นก็จัดสร้างนิทรรศการชั่วคราวขนาด 200 ตารางเมตร ในงานสัปดาห์วิทย์ฯ ช่วงเดือนสิงหาคม 2008 จนปัจจุบันมีนิทรรศการถาวรอยู่ ณ จามจุรีสแควร์ สามย่าน
เมื่อได้ลองเข้าไปที่นี่ เราจะได้สัมผัสกับ 7 บทเรียนในความมืด ในช่วงเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ กับเรื่องราวที่ไม่ต่างจากในชีวิตประจำวันของเรา ต่างแค่ตรงที่เราต้องอยู่ในความมืดตลอดเวลา และต้องใช้ประสาทสัมผัสส่วนอื่น ๆ เรียนรู้ในการเอาตัวรอดเมื่อตามองไม่เห็นอะไรเลย บนพื้นที่การจัดนิทรรศการ 600 ตารางเมตร ซึ่งภายในนิทรรศการนี้จะมีไกด์เป็นคนนำทางด้วยการใช้เสียงพาให้ไปสัมผัสโซนต่าง ๆ ตั้งแต่เดินทางเข้าสู่โลกมืด สู่ห้องรับรอง สวน ย่านชุมชน ห้องฟังเพลง ตลาด และคาเฟ่
สำหรับคนตะวันตกแล้ว พิพิธภัณฑ์คือแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะพิพิธภัณฑ์ศิลปะ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ แต่ยังมีการเรียนรู้ชีวิตในมุมอื่น ๆ ทั้งเรื่องราวคนในโลกมืดและคนในโลกไร้เสียง ซึ่งกว่านิทรรศการนี้จะถูกถอดแบบจากคนต้นคิด จะต้องเดินทางมาดูและอบรมผู้จัดนิทรรศการ รวมถึงไกด์นำทางในหลายประเทศ เพราะที่นี่คือนิทรรศการที่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อคนตาบอด ที่เป็นหนึ่งบทสนทนาของคนในโลกมืด ที่ต้องการแค่โอกาสและการอยู่ร่วมกับสังคม โดยไม่ต้องชนชั้น ลองเข้าไปสัมผัสกับนิทรรศการ "บทเรียนในความมืด" แล้วคุณจะได้สัมผัสความรู้สึกบางอย่าง เหมือนเช่นเจ้าชายน้อยบอกว่า สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตาแต่เรากลับสัมผัสได้ด้วยสติ และจิตใจ
หมายเหตุ : ในขณะที่เข้าชมไม่ควรนำกระเป๋า สิ่งของมีค่าที่ตกหล่นง่ายเข้าไปด้วย แต่ให้นำเงินเพียงเล็กน้อยเข้าไป
ที่ตั้ง : จัดแสดงที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. ชั้น 4 จามจุรีสแควร์ สามย่าน
เวลาเปิดปิด : ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ วันละ 25 รอบ (ผู้เข้าชมรอบละ 8 ท่าน) ตั้งแต่เวลา 11.30-17.30 น.
ค่าบริการ : ค่า เข้าชม ผู้ใหญ่ราคา 90 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษา ราคา 50 บาท (เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ต้องมีผู้ปกครองเข้าชมด้วย ถ้าต้องการชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้า)
โทรศัพท์ : 0 2160 5356 , 0 2577 9999 ต่อ 1829-1830
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Dialogue in the Dark–Thailand