ถนนคนเดิน เมืองกาญจนบุรี (ททท.)
ณ จุดที่แม่น้ำแควน้อยไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแควใหญ่ เป็นชัยภูมิซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงใช้สร้างเมืองใหม่ในปีพ.ศ. 2374 และได้ขยับขยายบ้านเมืองสืบทอดวิถีผู้คนผ่านยุคล่าสมัยอาณานิคม สงครามโลก เรื่อยมาจนเป็นเมืองกาญจนบุรีในปัจจุบัน นับได้เป็นระยะเวลาถึง 177 ปีแล้ว
ถนนปากแพรก
ย่านชุมชนเก่าแก่ของเมืองกาญจน์ที่ขนานไปกับน้ำแควใหญ่ ใกล้กำแพงเมือง มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์พร้อมกับสร้างเมืองในยุคแรกๆ บริเวณนี้เป็นย่านการค้าสำคัญ เนื่องจากใกล้ชุมทางขนส่งทางน้ำของกาญจนบุรี ปัจจุบันเป็นจุดที่เชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองกาญจน์หลาย แห่ง อาทิ กำแพงประตูเมืองเก่า ศาลหลักเมือง พิพิธภัณฑ์สงครามวัดใต้ และยังอยู่ใกล้ท่าน้ำหน้าเมืองที่มีเรือแพท่องเที่ยวมากมาย
สิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ
มีทั้งโบราณสถาน บ้านเรือนร้านค้าแบบไม้และตึก ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงแบบจีนและตะวันตก ก่อสร้างอยู่รวมกันตลอดเส้นทางสายนี้ เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
ประตูเมืองเก่า
รัชกาลที่ 3 ได้ทรงย้ายเมืองกาญจนบุรีจากลาดหญ้า มาตั้งยังอยู่ที่ปัจจุบัน ประตูเมืองก่อด้วยอิฐ ด้านบนตัวอักษรระบุปี พ.ศ. 2374 ที่สร้างเมือง ด้านหน้าประตูมีพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 3 ส่วนด้านข้างเป็นแนวกำแพงเมืองเก่า
บ้านแต้มทอง
บ้านตึกหลังแรกของกาญจนบุรี สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 เดิมเป็นร้านค้าขายของหลายอย่าง รวมทั้งเครื่องยาจีน และทอง อยู่บริเวณช่วงกลางถนนปากแพรก ปัจจุบันเป็นบ้านพักอาศัย มีลูกหลานอาศัยอยู่นับเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว บรรพบุรุษคือ นายฮะฮ้อ แต้มทอง (แซ่อื้อ) ชาวจีนซึ่งมาตั้งรกรากที่เมืองกาญจน์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 และได้กลับไปเมืองจีนนำช่างจีนกลับมาสร้างบ้านพร้อมเตียงดำ ซึ่งปัจจุบันบ้านนี้มีอายุประมาณ 150 ปี สถาปัตยกรรมแบบจีนยังคงสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกอย่าง